แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
1.
โครงงานเรื่อง
มะเร็งกับคนไทย
2.
ชื่อผู้เสนอโครงงาน
2.1
นายชานนท์
ตาเดอิน
2.2
นางสาวสุริยาพร
ศรีสงคราม
3.
ครูที่ปรึกษาโครงงาน
คุณครูเชษฐา เถาวัลย์
คุณครูโสภิตา
สังฆะโณ
4.
หลักการและเหตุผล
มะเร็ง
คือ เซลล์ทีเปลี่ยนสภาพไปเป็นเนื้อร้าย
เติบโตและขยายตัวในหลอดเลือด
และน้ำเหลือง กระจายไปยังอวัยวะอื่น
ๆ ในร่างกาย ซึ่งหากเป็นส่วนที่สำคัญ
เช่น ปอด ตับ สมอง
ก็จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วโดยมีสารเคมีที่เรียกว่า
คาร์ซิโนเจน (Carcinogen)
เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โครโมโซมในนิวเคลียสของเซลล์ผิดปกติไปจนกลายเป็น
มะเร็งที่มีการแบ่งตัวขยายออกไปเรื่อยๆ
ร่างกายเราประกอบไปด้วยอวัยวะต่างๆ
อวัยวะจะประกอบด้วยเซลล์
กลุ่มของเซลล์ที่มีรูปร่างและทำหน้าที่เหมือนกันรวมตัวกันจะเป็นอวัยวะ
หลายอวัยวะมาทำงานร่วมกันเป็นระบบ
หลายๆระบบทำงานร่วมกันเป็นร่างกายของคนเรา
เซลล์ต่างๆจะมีอายุเมื่อตายก็จะมีเซลล์ใหม่เจริญทดแทนเซลล์เก่าเซลล์ที่สร้างใหม่ไม่หยุดเราเรียกเนื้องอกซึ่งแบ่งเป็น
เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงหรือทางการแพทย์เรียก
Benign
tumor ส่วนมะเร็งที่แพร่กระจายไปอวัยวะอื่นๆเรียกมะเร็ง
โรคมะเร็งเป็นโรคที่พบได้บ่อย
โดยเฉพาะในปัจจุบันซึ่งมีมลภาวะจากการพัฒนาประเทศ
และประชาชนขาดความเอาใจใส่ต่อสุขภาพตนเอง
ขาดการออกกำลังกาย
รับประทานอาหารไม่เลือก
เหล่าเป็นสาเหตุให้มะเร็งเพิ่มขึ้นโรคมะเร็งเป็นโรคที่ป้องกันได้
และสามารถรักษาให้หายขาดได้หากสามารถวินิจฉัยได้ตั้งแต่เริ่มเป็น
เนื้อหาที่นำเสนอจะเป็นแนวทางการตรวจและวินิจฉัย
พร้อมทั้งแผนการรักษา
ท่านผู้อ่านควรทำความเข้าใจ
และนำความรู้ที่ได้ปรึกษาแพทย์ของท่านเกี่ยวกับวิธีรักษาของมะเร็งแต่ละชนิด
5.
หลักการ
ทฤษฏีและเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ร่างกายเราประกอบไปด้วยอวัยวะต่างๆ
อวัยวะจะประกอบด้วยเซลล์
กลุ่มของเซลล์ที่มีรูปร่างและทำหน้าที่เหมือนกันรวมตัวกันจะเป็นอวัยวะ
หลายอวัยวะมาทำงานร่วมกันเป็นระบบ
หลายๆระบบทำงานร่วมกันเป็นร่างกายของคนเรา
เซลล์ต่างๆจะมีอายุเมื่อตายก็จะมีเซลล์ใหม่เจริญทดแทนเซลล์เก่าเซลล์ที่สร้างใหม่ไม่หยุดเราเรียกเนื้องอกซึ่งแบ่งเป็น
เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงหรือทางการแพทย์เรียก
Benign
tumor ส่วนมะเร็งที่แพร่กระจายไปอวัยวะอื่นๆเรียกมะเร็ง
โรคมะเร็งเป็นโรคที่พบได้บ่อย
โดยเฉพาะในปัจจุบันซึ่งมีมลภาวะจากการพัฒนาประเทศ
และประชาชนขาดความเอาใจใส่ต่อสุขภาพตนเอง
ขาดการออกกำลังกาย
รับประทานอาหารไม่เลือก
เหล่าเป็นสาเหตุให้มะเร็งเพิ่มขึ้นโรคมะเร็งเป็นโรคที่ป้องกันได้
และสามารถรักษาให้หายขาดได้หากสามารถวินิจฉัยได้ตั้งแต่เริ่มเป็น
เนื้อหาที่นำเสนอจะเป็นแนวทางการตรวจและวินิจฉัย
พร้อมทั้งแผนการรักษา
ท่านผู้อ่านควรทำความเข้าใจ
และนำความรู้ที่ได้ปรึกษาแพทย์ของท่านเกี่ยวกับวิธีรักษาของมะเร็งแต่ละชนิด
6.
วัตถุประส่งของโครงงาน
6.1
เพื่อจัดทำเว็บบล็อกเรื่อง
มะเร็งกับคนไทย
6.2เพื่อศึกษาเรื่องราวข่าวสารเรื่อง
มะเร็งกับคนไทย
6.3เพื่อเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องมะเร็งกับคนไทย
6.4เพื่อศึกษาเรื่องราวข่าวสารเรื่องการรักษาโรคมะเร็งของคนไทย
7.
ขอบเขตของโครงงาน
7.1
รวบรวมข้อมูลความรู้ในเรื่อง
มะเร็ง
7.2
เวลาของการดำเนินการ
คือ ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา
2555
7.3
แหล่งค้นคว้าข้อมูล
คือ อินเทอร์เน็ต
8.
เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา
8.1
เว็บบล็อก
(WebBlog)
8.1.1
ความเป็นมาของเว็บบล็อก
สำหรับคำว่าเว็บบล็อก
มาจากคำว่า เว็บ(web)หรือ
เว็บไซต์ และคำว่า Log
ที่หมายถึง
สมุดที่บันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
เมื่อรวมกันออกเสียงควบเป็นเว็บ-บล็อก
หรือเรียกสั้นๆว่าบล็อก
ดังนั้นบล็อกจึงกลายเป็นเว็บไซต์ส่วนตัว
ที่ผู้ทำเขียนเล่าเรื่องต่างๆตามใจชอบ
ซึ่งคล้ายกับไดอารี่ออนไลน์
8.1.2
ความหมายของบล็อก
บล็อก
(blog)
เป็นคำรวมมาจากคำว่า
เว็บล็อก (weblog)
เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง
ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน
ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด
บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย
ข้อความ ภาพลิงก์
ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ
ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้
จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ
บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล
สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน
ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที
คำว่า "บล็อก"
ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง
การเขียนบล็อก
และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า
"บล็อกเกอร์"
บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก
โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร
การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น
การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า
อาหาร การเมือง เทคโนโลยี
หรือข่าวปัจจุบัน
นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์
ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน
นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำบล็อกของทางบริษัทขึ้น
เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ให้กับลูกค้า
โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น
และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไปเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
8.1.3
การใช้งานบล็อก
ผู้ใช้งานบล็อกจะแก้ไขและบริหารบล็อกผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์เหมือนการใช้งานและอ่านเว็บไซต์ทั่วไป
โดยจะมีรูปแบบบริหารบล็อกที่แตกต่างกัน
เช่นบางระบบที่มีบรรณาธิการของบล็อก
ผู้เขียนหลายคนจะส่งเรื่องเข้าทางบล็อก
และจะต้องรอให้บรรณาธิการอนุมัติให้บล็อกเผยแพร่ก่อน
บล็อกถึงจะแสดงผลในเว็บไซต์นั้นได้
ซึ่งจะแตกต่างจากบล็อกส่วนตัวที่จะให้แสดงผลได้ทันทีและผู้เขียนบล็อกในปัจจุบันจะใช้งานบล็อกในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งไม่ว่า
ติดตั้งซอฟต์แวร์ของตัวเอง
หรือใช้งานบล็อกผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการบล็อก
ส่วนสำหรับผู้อ่านบล็อกจะใช้งานได้ในลักษณะเหมือนอ่านเว็บไซต์ทั่วไป
และสามารถแสดงความเห็นได้ในส่วนท้ายของแต่ละบล็อกโดยอาจจะต้องผ่านการลงทะเบียนในบางบล็อก
นอกจากนี้ผู้อ่านบล็อกสามารถอ่านบล็อกได้ผ่านระบบฟีด
ซึ่งมีให้บริการในบล็อกทั่วไป
ทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านบล็อกได้โดยตรง
ผ่านโปรแกรมตัวอื่นโดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาสู่หน้าบล็อกนั้น
8.1.4.
ลักษณะของเว็บไซต์ที่เป็นบล็อก
สังเกตได้จากลักษณะต่างๆ
ดังนี้คือ
8.1.4.1. มีการบันทึกเนื้อหาโดยเจ้าของบล็อกอย่างสม่ำเสมอ
8.1.4.2.
ข้อมูลจะถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบคือรายการล่าสุดจะถูกแสดงไว้ด้านบนสุดของเว็บเพจแล้วไล่ลำดับย้อนหลังตามวันเวลาการเขียนไปเรื่อยๆ
8.1.4.3.
มักจะมีการลิงค์ไปหาบล็อกอื่นที่ผู้เขียนสนใจหรือได้เสนอความคิดเห็นโยงต่อจากข้อเขียนที่เขาอ้างถึงดังนั้น
นอกจากบล็อกจะใช้ในการเขียนและเผยแพร่เรื่องราวต่างๆ
แล้วก็ยังเป็นแหล่งรวมลิงค์ที่เจ้าของบล็อกนั้นๆใช้เป็นฐานเพื่อเสริมต่อความรู้อยู่เป็นประจำ
ไม่ว่าจะเป็นลิงค์ของบล็อกอื่นๆหรือลิงค์ของเว็บไซต์ก็ตาม
8.1.4.4.
บันทึกที่เขียนไว้ในบล็อกมักจะมีการแยกแยะเป็นกลุ่มเนื้อหาตามหัวข้อหลักๆที่ผู้เขียนสร้างขึ้น
เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อ่านที่สนใจในบันทึกที่มีความสัมพันธ์กันในใจความหลัก
8.1.4.5. และเมื่อผู้อ่านได้รับความรู้ต่างๆ
จากผู้เขียนบล็อกแล้วผู้อ่านมักจะมีการเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติมเพื่อเป็นการต่อยอดความรู้และเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกลุ่มผู้อ่านและผู้เขียนบล็อก
8.1.5
จุดเด่นของบล็อก
บล็อกแต่ละบล็อกจะมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนเช่นบล็อกที่เกี่ยวกับการจัดการความรู้
บล็อกด้านการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยบล็อกด้านการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ส
เป็นต้น
การสร้างจุดยืนของบล็อกเช่นนี้และมีการเขียนที่เป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้บล็อกเป็นที่น่าสนใจติดตามจากผู้อ่านมากมาย
แต่อย่างไรก็ตาม
ผู้เขียนแต่ละคนอาจจะมีความรู้ความถนัดในหลากหลายด้านการจะนำความรู้ทั้งหมดมาเขียนในบล็อกเดียวอาจทำให้การแยกแยะความรู้เป็นไปด้วยความลำบากทำให้หาแก่นความรู้ได้ยาก
และสำหรับผู้อ่านแล้วก็อาจจะยากในการติดตามอ่าน
ดังนั้นสำหรับผู้เขียนหนึ่งคน
ความสามารถของระบบในการสร้างบล็อกได้มากกว่าหนึ่งบล็อกเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ทีแตกต่างกันและมีการทำงานที่น่าสนใจ
8.2.
โดเมนเนม
(domain
name)
8.2.1
ความหมายของโดเมนเนม
โดเมนเนม
(domain
name) หมายถึง
ชื่อที่ใช้ระบุลงในคอมพิวเตอร์
(เช่น
เป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่เว็บไซต์
หรืออีเมลแอดเดรส)
เพื่อไปค้นหาในระบบ
โดเมนเนมซีสเทม เพื่อระบุถึง
ไอพีแอดเดรสของชื่อนั้นๆ
เป็นชื่อที่ผู้จดทะเบียนระบุให้กับผู้ใช้เพื่อเข้ามายังเว็บไซต์ของตน
บางครั้งอาจจะใช้ "ที่อยู่เว็บไซต์"
แทนก็ได้
โดเมนเนม หรือ ชื่อโดเมน
เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ
เนื่องจากไอพีแอดเดรสนั้นจดจำได้ยากกว่า
และเมื่อการเปลี่ยนแปลงไอพีแอดเดรส
ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรับรู้หรือจดจำไอพีแอดเดรสใหม่
ยังคงใช้โดเมนเนมเดิมได้ต่อไป
อักขระที่จะใช้ในการตั้งชื่อโดเมนเนม
ได้แก่ ตัวอักษรภาษาอังกฤษ
ตัวเลข และ "-"
(ยัติภังค์)
คั่นด้วย
"."
(มหัพภาค)
โดยปกติ
จะขึ้นต้นด้วยตัวอักษร
และลงท้ายด้วยตัวอักษรหรือตัวเลข
มีความยาวตั้งแต่ 1
ถึง
63
ตัวอักษร
ตัวอักษรตัวใหญ่ A
- Z หรือตัวอักษรตัวเล็ก
ถือว่าเหมือนกัน
8.2.2.
ส่วนประกอบของโดเมนเนม
มีส่วนประกอบสำคัญอยู่ 2
ส่วน
คือ
- ส่วนของชื่อ
ซึ่งอาจเป็นชื่อของบุคคล
นิติบุคคล องค์กร เครื่องหมายการค้า
หรืออื่นๆ ที่ต้องการจะสื่อให้เป็นตัวแทนของเว็บไซต์
นั้นๆ
- ส่วนของนามสกุล
ซึ่งเป็นลักษณะการประกอบการของเว็บไซต์นั้นๆ
โดยนามสกุลของโดเมนเนมนั้น
ยังแยกความดูแลให้แต่ละประเทศ
และแบ่งตามประเภทธุรกิจขององค์กรนั้นๆอีก
8.2.3.
ประเภทของโดเมนเนม
8.3.1. การจดทะเบียนโดเมนเนมสากล
หรือ โดเมน 2
ระดับ
เช่น .com,
.net, .org เป็นต้น
สามารถจดทะเบียนได้กับผู้ให้บริการด้านเว็บโฮสติ้งและบริการจดโดเมนเนมทั่วไป
ทั้งผู้ให้บริการภายในและภายนอกประเทศ
โดยอัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการเรียกเก็บโดยโดเมนแบบนี้จะประกอบด้วยชื่อโดเมน
และตัวย่อที่อยู่ด้านหลังเครื่องหมายจุ
คือคำย่อของประเภทองค์กร
8.3.2 การจดทะเบียนโดเมนภายในประเทศ
หรือ โดเมน 3
ระดับ
เป็นโดเมนเนมที่ดูแลด้วยหน่วยงานภายในประเทศนั้นๆ
โดยนโยบายการจดทะเบียนโดเมนเนม
จะถูกกำหนดใช้เฉพาะภายในประเทศนั้นเช่นกัน
โดเมนเนมภายในประเทศ เช่น
.go.th,
.co.th
ในปัจจุบันประเทศไทยมีหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบการจดโดเมนเนมภายในประเทศโดยตรงคือ
บริษัท ที.เอช.นิค
จำกัด โดเมนเนมในลักษณะนี้จะประกอบด้วย
ชื่อโดเมน ,
ตัวย่อที่อยู่ด้านหลังเครื่องหมายจุดใช้ระบุประเภทขององค์กรแต่มีรูปแบบแตกต่างจากคำย่อที่ใช้โดเมนเนม
2
ระดับ
และตัวย่อที่ระบุประเทศที่ก่อตั้งขององค์กรนั้นๆ
ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่าในอเมริกานั้นจะใช้ตัวย่อของประเภทองค์กรเป็นตัวอักษร
3
ตัว
microsolf.com
ในกรณีที่ประเทศอื่นๆเช่นบ้านเราจะมีเพียงแค่
2
ตัว
เช่น moe.go.th
8.3.
ภาษา
HTML
8.3.1.
ความหมายของ
HTML
HTML
หรือ
HyperText
Markup Language เป็นภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง
ที่มีโครงสร้างการเขียนโดยอาศัยตัวกำกับ
(Tag)
ควบคุมการแสดงผลข้อความ,
รูปภาพ
หรือวัตถุอื่นๆ ผ่านโปรแกรมเบราเซอร์
แต่ละ Tag
อาจจะมีส่วนขยายที่เรียกว่า
Attribute
สำหรับระบุ
หรือควบคุมการแสดงผล
ของเว็บได้ด้วยHTML
เป็นภาษาที่ถูกพัฒนาโดย
World
Wide Web Consortium (W3C) จากแม่แบบของภาษา
SGML
(Standard Generalized Markup Language)พัฒนาโดย
นาย Tim
Berners - Lee
เป็นภาษามาตรฐานที่ใช้พัฒนาเอกสารในรูปแบบของเว็บเพจบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตการเรียกใช้เอกสารเหล่านี้ทำได้โดยการใช้โปรแกรมเว็บบราวเซอร์
(Web
Browser) เช่น
Mosaic
, Opera , Nescape navigator , Internet Explorer ฯลฯ
เรียกดูแฟ้มที่สร้างด้วยภาษา
HTML
ข้อดีของ
HTML
คือสามารถใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
และระบบปฏิบัติการได้หลากหลายชนิดโดยตัดความสามารถบางส่วนออกไป
เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้ได้ง่าย
และด้วยประเด็นดังกล่าว
ทำให้บริการ WWW
เติบโตขยายตัวอย่างกว้างขวางตามไปด้วย
Tag
ซึ่งTag
เป็นลักษณะเฉพาะของภาษา
HTML
ใช้ในการระบุรูปแบบคำสั่ง
หรือการลงรหัสคำสั่ง HTML
ภายในเครื่องหมาย
less-than
bracket ( < ) และ
greater-than
bracket ( > ) โดยที่
Tag
HTML แบ่งได้
2
ลักษณะ
HTML
8.3.2.
โครงสร้างของภาษา
HTML
แฟ้มข้อมูลที่เขียนด้วยภาษา
HTML
นั้นจะมีการนำคำสั่ง
HTML
ที่เรียกว่า
แท็ก (Tag)
มากำหนดลักษณะและรูปแบบของเอกสารที่แสดงบนจอภาพ
แท็ก (Tag)
ประกอบด้วย
เครื่องหมายน้อยกว่า (<)
ตามด้วยชื่อแท็ก
ปิดท้ายด้วยเครื่องหมายมากกว่า
(>)
เช่น
<HTML>,
<HEAD>, <BODY>ชื่อแท็กนั้นอาจจะเป็นตัวเล็กหรือตัวใหญ่ก็ได้
แท็กในภาษา HTML
8.4.
Social Media
8.4.1
ความหมายของ
Social
Media
Social
Media มาจาก
คำว่า “Social”หมายถึง
สังคม ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์
ซึ่งมีขนาดใหม่มากในปัจจุบัน
ผสมกับ คำว่า “Media”
หมายถึง
สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหา
เรื่องราว บทความ วีดีโอ
เพลง รูปภาพ เป็นต้น ดังนั้นคำว่า
Social
Media จึงหมายถึง
สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง
โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันได้
ซึ่งมีพื้นฐานการเกิด Social
Media
ได้มาจากความต้องการของมนุษย์หรือคนเราที่ต้องการติดต่อสื่อสารหรือมีปฏิสัมพันธ์กัน
จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0
ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว
บุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้
แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค
2.0
ก็มีการพัฒนาเว็บไซต์ที่เรียกว่า
web
application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆ
ที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้งานมากขึ้น
ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านหน้าเว็บ
8.5.
World Wide Web ( WWW )
8.5.1
ความหมายของWWW
World
Wide Web หรือที่เรียกกันๆว่า
Web
หรือ
W3
(WWW)
คือคอมพิวเตอร์ส่วนหนึ่งบนอินเตอร์เน็ตที่ถูกเชื่อมต่อกันในแบบพิเศษที่ทำให้คอมพิวเตอร์เหล่านั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลเนื้อหาที่เก็บไว้ภายในของแต่ละเครื่องได้
(กลายเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่)
โดยผ่านทาง
บราวเซอร์ (Browser)
ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้อ่านและตอบโต้ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ใน
World
Wide Web โดยเฉพาะ
บราวเซอร์ที่พบเห็นได้มากที่สุดในปัจจุบัน
ได้แก่ Internet
Explorer ของ
และ Netscape
เวิร์ลไวด์เว็บถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยมีโครงการทางวิชาการในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างนักวิทยาศาสตร์ในทวีปยุโรปโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่
CERN
ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยทางนิวเคลียร์ฟิสิกส์ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ผู้ที่ได้รับเกียรติเป็นบิดาของเวิร์ลไวด์เว็บได้แก่
Tim
Berners-Lee ทิมได้คิดโครงการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารขึ้นมา
โดยใช้ระบบไฮเปอร์เท็กซ์และโครงการของเขาก็ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยจนเขากลายเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ไปปัจจุบันนี้ทิมทำงานอยู่ที่
World
Wide Web Consortium หรือชื่อย่อว่า
W3C
ซึ่งเป็นองค์กรศูนย์กลางของเครือข่ายใยแมงมุมทำหน้าที่รับรอบมาตรฐานต่างๆของระบบทั้งหมด
-
การดำเนินงาน
วันที่ / ระยะเวลาที่ดำเนินการ
ผู้รับผิดชอบ
กำหนดหัวข้อโครงงาน5-9 พฤศจิกายน 2555ชานนท์เสนอโครงร่างโครงงาน26-30 พฤศจิกายน 2555ชานนท์วิเคราะห์ข้อมูล3-4 ธันวาคม 2555สุริยาพรออกแบบเว็บไซต์11-14 ธันวาคม 2555ชานนท์พัฒนาเว็บไซต์17-21 ธันวาคม 2555สุริยาพรทดสอบและแก้ไขระบบ24 ธันวาคม 2555 –11 มกราคม 2556สุริยาพรนำเสนอโครงงาน1 มีนาคม 2556สุริยาพรประเมินผลโครงงาน1 มีนาคม 2556ชานนท์
10.
ประโยชน์ที่ตาดว่าจะได้รับ
10.1ทำให้รู้ที่มาของมะเร็ง
10.2
ทำให้รู้วิธีการรักษาโรคมะเร็ง
10.3
ทำให้ได้รู้ข่าวสารเรื่องมะเร็ง
ลงชื่อ
(..............................)
(..............................)
ครูที่ปรึกษาโครงงาน
ลงชื่อ
(..............................)
(..............................)
ครูที่ปรึกษาโครงงาน
ลงชื่อ
(..............................)
ผู้จัดทำโครงงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น